ภาพจาก : thaitextile.org

 

     หลายปีให้หลังมานี้โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเรามากขึ้น ยิ่งช่วง2-3ปีมานี้ยิ่งมีมากขึ้น ด้วยจากเหตุผลที่ทุกคนต่างทราบกันดี  ซึ่งนั่นทำให้หลายต่อหลายธุรกิจหันมาลงตลาดออนไลน์กันมากขึ้นเพื่อทางรอดของธุรกิจ และการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย  ดังนั้นการตลาดออนไลน์จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่การแข่งขันสูงไม่แพ้กัน  แล้วจะทำอย่างไรล่ะเพื่อให้ธุรกิจของคุณโดดเด่น และสู้กับแบรนด์อื่นๆที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในตลาดออนไลน์นี้ ไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ

1. การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์

     อินฟลูเอนเซอร์ หมายถึงผู้ที่ช่วยให้ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ หรือแนะนำผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มายังธุรกิจของคุณโดยตรง ดังนั้นการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ว่าจ้างทั้งธุรกิจเล็กและธุรกิจใหญ่ต่างก็หันมาใช้กลยุทธ์นี้ในการทำการตลาด เพราะหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของอินฟลูเอนเซอร์นั้นก็คือยอดผู้ติดตามจำเป็นจำนวนมากบนโซเชียลมีเดย เพราะฉะนั้นการจ้างให้อินฟลูเอนเซอร์ต่างๆที่มีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บล็อกเกอร์ เน็ตไอดอล เว็บไซต์ หรือคนดังในโลกโซเชียลต่างๆ รีวิวหรือพูดถึงสินค้าของคุณแล้วล่ะก็ ถือเป็นทางลัด และทางเลือกที่ดีที่ช่วยนำแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของคุณไปสู่สายตาของกลุ่มเป้าหมายของคุณ ผ่านการเลือกสายของอินฟลูเอ็นเซอร์ให้ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของคุณ เช่น เจ้าของร้านอาหารก็จะจ้างบล็อกเกอร์ดังด้านการรีวิวอาหาร หรือเจ้าของเครื่องสำอาง ก็เลือกจ้างบิวตี้บล็อกเกอร์รีวิวเครื่องสำอาง เป็นต้น เหตุเพราะพวกเขาเหล่านี้มีความเป็นทางการน้อยกว่าและดูเข้าถึงง่ายมากกว่าสื่อโฆษณาทางทีวีนั่นเอง ให้อารมณ์คล้ายเพื่อนแนะนำเพื่อน

2. การผสานรวมของการตลาดทางอีเมลและ CRM

     การตลาดทางอีเมลและการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management: CRM) เป็นแนวทางสองแนวที่จับคู่กันได้ดีเป็นพิเศษ
     ธุรกิจต้องหาหนทางที่จะช่วยให้พนักงานขายทำงานสอดคล้องกับแคมเปญการตลาดเพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันและปรับปรุงยอดขาย แต่น่าเสียดายที่ในหลายกิจการ ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดกลับทำงานเป็นคู่แข่งกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากร การปรับให้พนักงานขายทำงานสอดคล้องกับแคมเปญการตลาดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความขัดแย้งนี้
     มีเครื่องมือดีๆ มากมายที่ช่วยให้การผสานรวมดังกล่าวเกิดขึ้นได้ HubSpot เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวผ่านเส้นทางการขายและการตลาด จึงนับเป็นหนึ่งในทรัพยากรอันยอดเยี่ยมเพื่อให้ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดทำงานร่วมกันในการจัดการความเคลื่อนไหวผ่านเส้นทางดังกล่าว

3. การวิเคราะห์คอนเวอร์ชัน

     ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องศึกษาเจาะลึกเรื่องคอนเวอร์ชัน หรือการเปลี่ยนผู้สนใจให้มาเป็นลูกค้าในช่องทางดิจิทัล ตลอดจนปัจจัยที่ทำให้ผู้คนเดินทางผ่านเส้นทางการขาย จนมาถึงขั้นตอนปิดการขายในที่สุด และ 3 สิ่งต่อไปนี้คือกลยุทธ์หลักที่จะทำให้คุณได้มาซึ่งอัตราคอนเวอร์ชันสูงสุด

เนื้อหา (Content)  เนื้อหาที่นำเสนอนั้นควรเป็นมากกว่าบล็อกและโพสต์ทางโซเชียลมีเดียโดยจะต้องสำรวจเรื่องราวของตลาดเป้าหมายอย่างเจาะลึก ในเนื้อหาควรจะต้องมีตัวเอกและตัวเอกนั้นควรเป็นกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าของคุณ แทนที่จะเป็นธุรกิจ หรือ สินค้าของคุณ จากนั้นก็ตามด้วยประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ และบริการหลังการขายหากสินค้าเกิดมีปัญหาหลังจากซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณไปแล้ว

หน้าเว็บปลายทาง (Landing Page )  สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญของการสร้างคอนเวอร์ชันอยู่ที่หน้าเว็บปลายทางอันยอดเยี่ยม อัตราคอนเวอร์ชันจะเพิ่มสูงขึ้นคุณจะต้องปรับแต่งให้เหมาะสมสัมพันธ์กันกับจุดประสงค์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์นั่นก็คือลุกค้าของคุณนั่นเอง  ต้องสวยงาม การค้นหาข้อมูลจะต้องง่ายไม่ซับซ้อน  เพราะถ้าหากหน้าเว็บไซต์ซบซ้อน สับสน หาอะไรก็ไม่เจอ ต้องกดไปตรงไหนไม่รู้งงไปหมด  ลูกค้าของคุณก็จะกดปิดทันที และยอดขายก็จะปลิวหายไปจากคุณอย่างเสียมิได้ (แต่ก็เสียไปแล้ว)

สิ่งกระตุ้นการตัดสินใจ (Call-to-Action: CTA)  สำหรับปี 2023 สิ่งกระตุ้นการตัดสินใจ ควรเป็นการใช้ Call-To-Action: CTA ในช่วงกลางของเส้นทางการขาย คุณควรสำรวจข้อมูลการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เว็บไซต์ด้วย Google Analytics และสร้างแผนภูมิความถี่เพื่อดูว่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บของคุณอย่างไร ตรวจสอบการเข้าชมเว็บไซต์และหน้าเว็บปลายทางหลักเพื่อดูว่าหน้าเว็บตรงตามจุดประสงค์ของผู้ใช้และมีความน่าสนใจพอที่จะดึงดูดผู้เข้าชม นอกจากนี้ การพัฒนา CTA ที่มีประสิทธิภาพและดึงดูดความสนใจก็จะช่วยผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและตัดสินใจได้ว่าต้องการซื้อสินค้าจากคุณหรือไม่

แม้ว่าการตลาดดิจิทัลจะมีการแข่งขันสูงมากๆ สูงทั้งปริมาณธุรกิจ และความหลากหลายทางคอนเทนท์การนำเสนอ จนบางครั้งหากไล่ตามไม่ทันอาจถูกกลืนหายไปได้ง่ายๆเพราะ ทุกอย่างเกิดขึ้นไว หายไปไวมากๆ  แต่ในขณะเดียวกันช่องทางนี้ก็เป็นช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจ สินค้าและบริการของคุณเข้าถึงผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคณได้มาก และกว้างขึ้น เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วก็ไม่มีเหตุผลไหนที่คุณจะเลือกเมินการตลาดดิจิทัลนี้ไปได้เลยนั่นเอง

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

1.JEWELLER. 2022. Three digital marketing tactics you must have in your arsenal. [Online].

2.Available at https://www.jewellermagazine.com/

 

 

ที่มา : thaitextile.org

 

 

 

กลับไปหน้าหมวดบทความนี้ Learning your work

ดูบทความของ Garment Job ทั้งหมด